การปฏิบัติและความแตกต่าง ของ การอดอาหารเป็นพัก ๆ

บางคนอาจใช้วิธีการอดอาหารเป็นพัก ๆ เพื่อลดจำนวนแคลอรีและลดน้ำหนัก[5][6] จากการศึกษาขั้นต้นพบว่า การอดอาหารเป็นพัก ๆ อาจเสี่ยงต่อโรคบางอย่าง

เกณฑ์วิธีการอดอาหารเป็นพัก ๆ อาจแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มคือ อดอาหารทั้งวันและจำกัดการกินในช่วงเวลา หรือเรียกว่า TRF

  • การอดอาหารทั้งวัน เป็นปกติในช่วงเวลา 1 วัน หรือเรียกว่า Alternate day fasting (ADF) เป็นการอดอาหารวันเว้นวัน คืออดอาหาร 24 ชั่วโมง และสามารถกินอาหารได้ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงถัดมา[7] ส่วนการควบคุมอาหารแบบ 5:2 หมายถึง การกินอาหาร 500–600 แคลอรีในวันที่อดอาหาร[8][9]
  • การจำกัดเวลารับประทานอาหาร หรือเรียกว่า Time-restricted feeding (TRF) คือการกินอาหารเฉพาะในช่วงเวลาที่กำหนดขึ้นว่ากี่ชั่วโมงในแต่ละวัน[10] รูปแบบทั่วไปของ TRF คือ อดอาหาร 16 ชั่วโมงต่อวัน และมีเวลากินอาหารภายในระยะเวลา 8 ชั่วโมง โดยทั่วไปจะกำหนดเป็นเวลาเดียวกันในแต่ละวัน[11] ยังมีช่วงเวลาการกินที่เข้มงวดน้อยกว่า คือ อดอาหาร 12 ชั่วโมง และกินอาหาร 12 ชั่วโมง หรือหากเข้มงวดกว่าเดิม ก็อาจจะกินอาหารเพียงมื้อเดียว ซึ่งอาจหมายถึงอดอาหาร 23 ชั่วโมง[12]

มีคำแนะนำที่แตกต่างกันไปในเรื่องการกินอาหารระหว่างช่วงอดอาหาร บ้างก็ว่ากินได้แต่น้ำเปล่า บ้างก็อนุญาตให้กินชาหรือกาแฟได้ (ปราศจากนมและน้ำตาล) หรือเครื่องดื่ม 0 แคลอรี บ้างก็ว่าอาจดัดแปลงการอดอาหารได้ โดยจำกัดจำนวนแคลอรีที่กินเข้าไป (เช่น กินได้ 20% ของปกติ) ในช่วงอดอาหาร มากกว่าที่จะไม่กินอะไรเลย[7]

การควบคุมอาหารแบบ 5:2 เป็นที่นิยมในสหราชอาณาจักรในปี 2012[13][14][15] หลังจากช่องบีบีซีทู เสนอสารคดี Eat, Fast and Live Longer[16] โดยการขายหนังสือขายดี และได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายในที่สุด[9][17]

จากข้อมุลของการบริการด้านสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ (National Health Service) ในปี 2012 ผู้คนมีความคิดว่าการควบคุมอาหารแบบ 5:2 ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะการอดอาหารเช่นนี้อาจถือว่าไม่ปลอดภัย[9][18] ในสหราชอาณาจักรหนังสือประเภทแทบลอยด์รายงานว่า จากผลการวิจัย อ้างว่า การควบคุมอาหารแบบ 5:2 อาจลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม และช่วยทำให้สมองและการทำงานของภูมิคุ้มกันโรคดีขึ้น หรือทำให้อายุยืนขึ้น แต่ก็ไม่มีสิ่งยืนยันข้อพิสูจน์ที่ดีพอนัก[9][19]